ช่วงต้นพระชนม์ชีพ ราวค.ศ. 978 - 1028 ของ จักรพรรดินีโซอี_พอร์ฟีโรเกนิตา

เจ้าหญิงโซอีทรงเป็น "พอร์ฟีโรเกนิตา"[2] หรือ "ผู้ประสูติในรัชกาล" หรือ "ผู้ประสูติในสีม่วง" อันเป็นสร้อยพระนามของพระโอรสธิดาที่ประสูติในช่วงจักรพรรดิกำลังเสวยราชย์อยู่ เจ้าหญิงโซอีเป็นพระราชธิดาพระองค์ที่สองในจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 8 กับจักรพรรดินีเฮเลนา[3] พระราชชนกของเจ้าหญิงทรงเป็นจักรพรรดิร่วมตั้งแต่มีพระชนมายุได้ 2 พรรษา ในปีค.ศ. 962[4] พระเชษฐาของพระองค์คือ จักรพรรดิบาซิลที่ 2 เป็นพระประมุขร่วมที่อาวุโสกว่า ทรงพยายามไม่ให้เจ้าหญิงผู้เป็นพระราชนัดดาเสกสมรสกับเหล่าขุนนางไบแซนไทน์ เพื่อไม่ให้พระสวามีเหล่านันอ้างสิทธิในราชบัลลังก์ได้ ในฐานะผู้หญิง พระองค์ไม่สามารถใช้อำนาจรัฐใดๆได้ พวกพระองค์ทำได้เพียงแค่เลือก หรือยอมรับหรือไม่ จากพระสวามีซึ่งจะได้รับสิทธิต่างๆเมื่อทรงเสกสมรสแล้ว[5] ดังนั้น เจ้าหญิงโซอีจึงใช้พระชนม์ชีพอย่างน่าคลุมเครือในไกเนซีอุม (เขตพระราชฐานสตรี) เป็นระยะเวลาหลายปี[6]

เจ้าหญิงโซอีทรงมีศักดิ์และสิทธิ์ที่จะได้รับเลือกเป็นพระมเหสีในจักรพรรดิอ็อทโทที่ 3 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ในปีค.ศ. 996[7] คณะราชทูตครั้งที่สองจัดขึ้นในปีค.ศ. 1001 หัวหน้าคณะคือ อาร์นัล์ฟที่ 2 อาร์กบิชอปแห่งมิลาน[8] ได้รับพระราชโอรงการให้คัดเลือกพระราชธิดาสามพระองค์ของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 8 มาเป็นพระมเหสีของจักรพรรดิอ็อทโท พระราชธิดาองค์โตคือ เจ้าหญิงยูโดเซีย ทรงเสียโฉมจากไข้ทรพิษ ส่วนพระราชธิดาองค์เล็กคือ เจ้าหญิงธีโอโดรา ทรงมีรูปโฉมเรียบๆธรรมดา อาร์นัล์ฟจึงเลือกเจ้าหญิงโซอี พระชนมายุ 23 พรรษา ผู้งดงาม ซึ่งจักรพรรดิบาซิลที่ 2 ทรงเห็นด้วย[2] ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1002 เจ้าหญิงทรงติดตามอาร์นัล์ฟกลับไปยังอิตาลี แต่เมื่อเรือมาถึงบารี ก็ทราบข่าวว่าจักรพรรดิอ็อทโทสวรรคตแล้ว ทำให้พระนางต้องเสด็จกลับ[2]

เมื่อจักรพรรดิบาซิลสวรรคต จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 8 ได้ครองบัลลังก์ รัชกาลของพระองค์ระยะสั้นไม่ถึง 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 1025 ถึง 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1028[3] โอกาสที่เจ้าหญิงโซอีจะได้อภิเษกสมรสเกิดขึ้นในปีค.ศ. 1028 เมื่อคณะทูตของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาถึงคอนสแตนติโนเปิล เพื่อทูลขอการอภิเษกสมรส จักรพรรดิคอนสแตนตินและเจ้าหญิงโซอีทรงปฏิเสธเมื่อทราบว่าคู่อภิเษกคือเจ้าชายไฮน์ริช วัยเพียง 10 พรรษา ซึ่งเป็นพระราชโอรสในจักรพรรดิค็อนราทที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์[6] จักรพรรดิคอนสแตนตินทรงตั้งพระทัยว่าราชวงศ์ของพระองค์ยังคงอยู่ต่อไป โดยหนึ่งในพระราชธิดาของพระองค์ต้องเสกสมรสกับขุนนางที่เหมาะสม บุคคลแรกคือขุนนางผู้โดดเด่นชื่อ คอนสแตนติน ดาลาสเซนอส อดีตดุ๊กแห่งแอนติออก[9] ที่ปรึกษาของจักรพรรดิพยายามที่จะเลือกบุคคลที่อ่อนแอเพื่อที่พวกเขาจะสามารถควบคุมได้ พวกเขาจึงชักชวนให้จักรพรรดิทรงปฏิเสธดาลาสเซนอสหลังจากที่เขาเดินทางมาถึงเมืองหลวง[5] โรมานอส อาร์กีรอส เจ้าเมืองคอนสแตนติโนเปิล เป็นตัวเลือกถัดไป[5] เจ้าหญิงธีโอโดราท้าทายพระราชชนกโดยปฏิเสธที่จะเสกสมรสกับโรมานอส อาร์กีรอส ทรงเถียงว่าอาร์กีรอสสมรสแล้ว โดยภรรยาของอาร์กีรอสถูกบังคับให้ผนวชเป็นชีเพื่อเปิดทางให้อาร์กีรอสแต่งงานเข้าราชวงศ์[10]:465 และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดทางสายเลือดมากเกินไปจากการเป็นพระญาติกัน[11] ดังนั้นจักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 8 ทรงเลือกเจ้าหญิงโซอีเป็นชายาในโรมานอส[11][12] เจ้าหญิงโซอีและโรมานอสเข้าพิธีอภิเษกสมรสในวันที่ 10 พฤศจิกายน ค.ศ. 1028 ในวิหารหลวงภายในพระราชวัง สองวันหลังจากนั้นจักรพรรดิคอนสแตนตินก็เสด็จสวรรคต และคู่สมรสใหม่ได้นั่งราชบัลลังก์ไบแซนไทน์[13]

ใกล้เคียง

จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 จักรพันธ์ ครบุรีธีรโชติ จักรพรรดิโชวะ จักรพรรดิเมจิ จักรพรรดิ จักรพรรดิยงเจิ้ง จักรพรรดิคังซี จักรพรรดิบ๋าว ดั่ย จักรพรรดิเปดรูที่ 1 แห่งบราซิล จักรพรรดินีฟาราห์ ปาห์ลาวี